บทวิเคราะห์ บอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 ได้เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะแข่งขันกันแบบแพ้คัดออกตกรอบไปเลย เพื่อตามหา 8 ชาติลูกหนังที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่ก่อนที่จะไปติดตามการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ลองไปดูผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของแต่ละทีมว่าผ่านเข้าสู่รอบนี้มาได้อย่างไรกันบ้าง

เส้นทางยูโร 2020 รอบ 16 ทีม

กลุ่ม A : อิตาลี (แชมป์กลุ่ม), เวลส์ (รองแชมป์) และ สวิตเซอร์แลนด์ (ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด)

กลุ่ม B : เบลเยี่ยม (แชมป์กลุ่ม), เดนมาร์ก (รองแชมป์)

กลุ่ม C : ฮอลแลนด์ (แชมป์กลุ่ม), ออสเตรีย (รองแชมป์) และ ยูเครน (ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด)

กลุ่ม D : อังกฤษ (แชมป์กลุ่ม), โครเอเชีย (รองแชมป์) และ สาธารณรัฐเช็ก (ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด)

กลุ่ม E : สวีเดน (แชมป์กลุ่ม), สเปน (รองแชมป์กลุ่ม)

กลุ่ม F : ฝรั่งเศส (แชมป์กลุ่ม), เยอรมนี (รองแชมป์กลุ่ม) และ โปรตุเกส (ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด)

16 ทีมเคยไปได้ไกลแค่ไหนในรอบน็อคเอาท์

คราวนี้ลองไปดูกันว่าทั้ง 16 ทีมเคยฝากผลงานในรอบน็อคเอาท์ได้ไกลที่สุดแค่ไหนกันบ้างดังต่อไปนี้เลย

เยอรมนี : แชมป์ 3 สมัย ในศึกยูโร 1972, ยูโร 1980 และยูโร 1996

สเปน : แชมป์ 3 สมัย ในศึกยูโร 1964, ยูโร 2008 และยูโร 2012

ฝรั่งเศส : แชมป์ 2 สมัย ในศึกยูโร 1984 และยูโร 2000

โปรตุเกส : แชมป์ 1 สมัย ในศึกยูโร 2016

อิตาลี : แชมป์ 1 สมัย 1 สมัย ในศึกยูโร 1964

ฮอลแลนด์ : แชมป์ 1 สมัย ในศึกยูโร 1988

เดนมาร์ก : แชมป์ 1 สมัย ในศึกยูโร 1992

เบลเยี่ยม : รอบชิงชนะเลิศ 1 ครั้ง ได้รองแชมป์ยูโร 1980

สาธารณรัฐเช็ก : รอบชิงชนะเลิศ 1 ครั้ง ได้รองแชมป์ยูโร 1996

อังกฤษ : รอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง ในศึกยูโร 1968 และยูโร 1996

เวลส์ : รอบรองชนะเลิศ 1 ครั้ง ในศึกยูโร 2016

สวีเดน : รอบรองชนะเลิศ 1 ครั้ง ในศึกยูโร 2008

โครเอเชีย : รอง 8 ทีมสุดท้าย 2 ครั้ง ในศึกยูโร 1996 และยูโร 2008

สวิตเซอร์แลนด์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึกยูโร 2016

ยูเครน : เข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกในศึกยูโร 2020

ออสเตรีย : เข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกในศึกยูโร 2020

2 เกมห้ามพลาดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูโร 2020 ได้ทั้ง 8 คู่เตะกันไปหมดแล้ว ซึ่งเป็นไปตามผลงานของแต่ละชาติลูกหนังที่ทำได้จากรอบแบ่งกลุ่ม โดยมี “บิ๊กแมทช์” ถึง 2 คู่ และเป็นการเผชิญหน้ากันของ 4 ทีมยักษ์ใหญ่อีกด้วย

คู่เด็ดยูโร รอบ 16 ทีม อังกฤษเยอรมันนี

“อังกฤษ VS เยอรมนี” ศึกนี้เพื่อศักดิ์ศรี

ถือว่าเป็นคู่เอกในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูโร 2020 ได้เลย สำหรับการเผชิญหน้ากันระหว่าง อังกฤษ ทีมแชมป์กลุ่ม ดี กับ เยอรมนี รองแชมป์กลุ่ม เอฟ ซึ่งเป็นทีมคู่รักคู่แค้นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรี เพราะเคยดวลกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต และเกมนี้จะฟาดแข้งกันที่เวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คืนวันที่ 29 มิ.ย.นี้ โดยทั้งสองทีมเคยเจอกันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่นับเฉพาะในศึกฟุตบอลโลก และศึกยูโรมาแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง ปรากฎว่า เยอรมนี พกสถิติข่มจากการคว้าชัยได้มากถึง 5 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 2 เกม

แต่ถ้านับเฉพาะเกมในรอบน็อคเอาท์ ปรากฎว่า อังกฤษ เคยเป็นฝ่ายเขี่ย เยอรมนี ตกรอบแพ้คัดออกได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งต้องย้อนหลังกลับไปในนัดชิงฟุตบอลโลก 1966 เกมที่เอาชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 โน้นเลย ส่วนผลการพบกันในรอบน็อคเอาท์หนล่าสุดเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปรากฎว่า เยอรมนี เป็นฝ่ายชนะ 4-1 แต่ถ้าเป็นการเจอกันในรอบน็อคเอาท์ของศึกยูโรครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปในศึกยูโร 1996 เมื่อตอนที่ อังกฤษ สวมบทเป็นเจ้าภาพ โดยพลาดท่าแพ้ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 5-6 หลังเสมอในช่วง 120 นาที 1-1 ซึ่งเตะกันที่้เวมบลีย์เสียด้วย

ถ้าจำกันได้ในเกมนั้น แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือคนปัจจุบันรับหน้าที่สังหารจุดโทษในช่วงดวลเป้าตัดสินเป็นคนสุดท้าย แต่อดีตกองหลังในช่วงทศวรรษ 90 กลับยิงไปติดเซฟของ อันเดรียส ค็อปเค่ อดีตนายทวารทีมชาติเยอรมนีที่ล้มตัวไปทางขวามือของตัวเองแล้วปัดบอลเอาไว้ได้ โดยตอนนี้ ค็อปเค่ ทำหน้าที่เป็นโค้ชผู้รักษาประตูให้ทีมบ้านเกิดอยู่ด้วย

คู่เด็ดยูโร รอบ 16 ทีม เบลเยี่ยม VSโปรตุเกส

“เบลเยี่ยม VS โปรตุเกส” เกมนี้มันส์แน่นอน

เป็นการเผชิญหน้ากันของ 2 ชาติลูกหนังที่เล่นเกมรุกได้แบบตื่นเต้นเร้าใจที่สุดแห่งยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยตอนนี้ เบลเยี่ยม ยังคงรั้ง “เบอร์หนึ่ง” ในฐานะทีมฟุตบอลชายในระดับชาติที่ดีที่สุดจากการจัดอันดับของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า นั่นเอง ส่วน โปรตุเกส มีดีกรีเป็นถึง “แชมป์เก่า” จากในศึกยูโร 2016 เมื่อ 5 ปีก่อน

ตอนนี้ เบลเยี่ยม อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น เอเดน อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์ และ โรเมลู ลูกากู เป็นต้น จึงพร้อมที่จะไล่ล่าแชมป์รายการใหญ่ให้ได้เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เคยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์ในศึกยูโร 1980 เท่านั้น

ขณะที่ โปรตุเกส ยังคงเต็มไปด้วยนักเตะจากทีมชุดแชมป์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวชูโรงเหมือนเดิม แม้ตอนนี้จะมีอายุมากถึง 36 ปีแล้ว แต่ยังคงเดินหน้ายิงประตูได้แบบต่อเนื่อง และฝากผลงานจากรอบแบ่งกลุ่มด้วยการสอยตาข่ายได้ถึง 5 ประตูเลยด้วย

เปิดโผสังเวียนแข่งรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ในส่วนของสังเวียนแข้งที่จะใช้แข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมีทั้งหมด 7 สนามใน 7 เมืองใหญ่ของ 7 ประเทศดังต่อไปนี้ 

เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เอสตาดิโอ ลา คาร์ตูฆ่า, เมืองเซบีญ่า ประเทศสเปน

เนชั่นแนล อารีน่า, กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย

ปาร์เค่น สเตเดี้ยม, กรุงโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก

แฮมป์เดน ปาร์ค, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์

ปุสกัส อารีน่า, เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์

ส่องทีมเต็งแชมป์ยูโร2020

Sky Bet บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายของเกาะอังกฤษ ได้ออกอัตราต่อรองทีมเต็งแชมป์ยูโร 2020 ในช่วงหลังจากที่ได้เห็นโฉมหน้าของทั้ง 16 ทีมสุดท้าย โดยยังคงเชื่อมั่นฝีเท้าของ ฝรั่งเศส มากที่สุด เพราะว่ามีดีกรีเป็นถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 จึงยกให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ด้วยราคา 4 ต่อ 1 หรือแทง 1 จ่าย 4 ไม่รวมทุนนั่นเอง ส่วนเต็ง 2 เป็นของอีก 2 ชาติลูกหนังยักษ์ใหญ่ นั่นก็คือ อังกฤษ กับ อิตาลี ซึ่งมีราคาเท่ากันพอดีเลย ขณะที่เต็ง 3 ได้แก่ เยอรมนี อดีตแชมป์รายการนี้ถึง 3 สมัย

4/1 : ฝรั่งเศส

6/1 : อังกฤษ, อิตาลี

13/2 : เยอรมนี

15/2 : สเปน

8/1 : เบลเยี่ยม

9/1 : ฮอลแลนด์

14/1 : โปรตุเกส

18/1 : เดนมาร์ก

50/1 : สวีเดน, สาธารณรัฐเช็ก

66/1 : ยูเครน, สวิตเซอร์แลนด์

75/1 : โครเอเชีย

80/1 : เวลส์

100/1 : ออสเตรีย

โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

โปรแกรมฟุบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีม

26 มิ.ย. เวลส์ (รองแชมป์กลุ่ม เอ) พบ เดนมาร์ก (รองแชมป์กลุ่ม บี) ที่โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์ เวลา 23.00 น.

26 มิ.ย. อิตาลี (แชมป์กลุ่ม เอ) พบ ออสเตรีย (รองแชมป์กลุ่ม ซี) ที่เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 02.00 น.

27 มิ.ย. ฮอลแลนด์ (แชมป์กลุ่ม ซี) พบ สาธารณรัฐเช็ก (ทีมอันดับ 3 กลุ่ม ดี) ที่ปุสกัส อารีน่า, เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เวลา 23.00 น.

27 มิ.ย. เบลเยี่ยม (แชมป์กลุ่ม บี) พบ โปรตุเกส (ทีมอันดับ 3 กลุ่ม เอฟ) ที่เอสตาดิโอ ลา คาร์ตูฆ่า, เมืองเซบีญ่า ประเทศสเปน เวลา 02.00 น.

28 มิ.ย. โครเอเชีย (รองแชมป์กลุ่ม ดี) พบ สเปน (รองแชมป์กลุ่ม อี) ที่ปาร์เค่น สเตเดี้ยม, กรุงโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก เวลา 23.00 น.

28 มิ.ย. ฝรั่งเศส (แชมป์กลุ่ม เอฟ) พบ สวิตเซอร์แลนด์ (ทีมอันดับ 3 กลุ่ม เอ) ที่เนชั่นแนล อารีน่า, กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เวลา 02.00 น.

29 มิ.ย. อังกฤษ (แชมป์กลุ่ม ดี) พบ เยอรมนี (รองแชมป์กลุ่ม เอฟ) ที่เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 23.00 น.

29 มิ.ย. สวีเดน (แชมป์กลุ่ม อี) พบ ยูเครน (ทีมอันดับ 3 กลุ่ม ซี) ที่แฮมป์เดน ปาร์ค, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เวลา 02.00 น.

เช็คผลบอลยูโร 2020 คลิกเลย

คอมเมนต์

Leave a Comment

ติดตามอีเมลล์ของเรา Med

กรอกอีเมลล์ และ รายละเอียดของคุณเพื่อติดตามรับข่าวสารจากเรา เพื่อให้คุณไม่พลาด โปรโมชั่นดีดี ไม่ว่าจะเป็น เครดิตฟรี โบนัสเงินฝาก โบนัสเงินคืน จากเว็บโดนๆ มากมาย