วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. 2021

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 คืนวันศุกร์ที่ 2 ก.ค.นี้ เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งจะมีโปรแกรมลงเตะทั้ง 2 คู่ เริ่มต้นกันด้วยคู่ “บิ๊กแมทช์” เป็นการดวลแข้งกันระหว่าง เบลเยี่ยม พบกับ อิตาลี ในเวลา 5 ทุ่ม และปิดท้ายด้วย สวิตเซอร์แลนด์ พบกับ สเปน ในเวลาตี 2 โดยสามารถติดตามบทวิเคราะห์ฟันธงกันได้ทุกวันจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.นี้กันได้เลย 

บอลยูโร 2020 สวิตเซอร์แลนด์ VS สเปน

สวิตเซอร์แลนด์ VS สเปน

สนาม : เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

เวลา : 02.00 น.

สวิตเซอร์แลนด์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ชนะ ลิกเท่นสไตน์ 7-0 (เหย้า)

เสมอ เวลส์ 1-1 (ยูโร 2020)

แพ้ อิตาลี 0-3 (ยูโร 2020)

ชนะ ตุรกี 3-1 (ยูโร 2020)

ชนะจุดโทษ ฝรั่งเศส 5-4 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังต่อเวลาครบ 120 นาที เสมอ 3-3)

คาดว่ากุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เฉือนชนะ ฝรั่งเศส ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 5-4 หลังเสมอกันจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษครบ 120 นาที 3-3 โดยพร้อมให้พวกตัวหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 เหมือนเดิม ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยังคงเป็นหน้าที่ของ ยานน์ ซอมเมอร์ ยืนเฝ้าเสาเหมือนเช่นเคย แนวรับยังคงใช้ 3 ประสาน นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อคานญี่ และ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ซึ่งจริงๆ แล้วสวมบทฟูลแบ็กฝั่งซ้าย แต่ถูกจับขยับมายืนเป็นกองหลังแล้วทำผลงานได้ดีกว่า ฟาเบียน ชาร์ แดนกลางไร้ กรานิท ชาก้า ติดโทษแดงจากการสะสมใบเหลืองครบกำหนด จึงน่าจะให้ เดนิส ซากาเรีย ลงไปยืนคุมเกมคู่กับ เรโม ฟรอยเลอร์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างน่าจะใช้ ซิลวาน วิดเมอร์ กับ สตีเว่น ซูเบอร์ ซึ่งครองสถิติเป็นนักเตะที่จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้มากที่สุดในศึกยูโร 2020 ไปแล้วถึง 4 แอสซิสต์ ส่วนแนวรุกยังคงวาง เซอร์ดาน ชากิรี่ ยืนเป็นจอมทัพอยู่ด้านหลังของคู่กองหน้า บรีล เอ็มโบโล่ กับ ฮาริส เซเฟโรวิช       

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ยานน์ ซอมเมอร์

แนวรับ : นิโก้ เอลเวดี้, ริคาร์โด้ โรดริเกซ, มานูเอล อคานญี่

แดนกลาง : เรโม ฟรอยเลอร์, เดนิส ซากาเรีย, สตีเว่น ซูเบอร์, ซิลวาน วิดเมอร์

แนวรุก : เซอร์ดาน ชากิรี่, ฮาริส เซเฟโรวิช, บรีล เอ็มโบโล่

สเปน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ ลิทัวเนีย 4-0 (เหย้า)

เสมอ สวีเดน 0-0 (ยูโร 2020)

เสมอ โปแลนด์ 1-1 (ยูโร 2020)

ชนะ สโลวะเกีย 5-0 (ยูโร 2020)

ชนะต่อเวลา โครเอเชีย 5-3 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเสมอ 90 นาที 3-3)

คาดว่ากุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ จะปรับทัพจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ต่อเวลาพิเศษชนะ โครเอเชีย 5-3 หลังเสมอในช่วง 90 นาที 3-3 และยังไม่พบกับความพ่ายแพ้เลยด้วย จึงพร้อมทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยผู้รักษาประตูน่าจะได้ ดาบิด เด เคอา หายเจ็บแล้วฟิตกลับมานั่งเป็นตัวสำรองของ อูไน ซิมอน นายทวารมือหนึ่ง แนวรับยังต้องรอดูอาการบาดเจ็บของ เอริค การ์เซีย ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดก่อน หากลงเล่นไม่ได้จะให้ เปา ตอร์เรส กลับไปยืนคู่กับ อายเมริก ลาปอร์ก อีกครั้ง ส่วนฟูลแบ็กฝั่งซ้ายน่าจะดร็อป โฆเซ่ กาย่า เพื่อให้ ฆอร์ดี้ อัลบา กลับมายืนคนละด้านกับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แดนกลางไม่น่าจะให้ ติอาโก้ อัลคานทาร่า ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยน่าจะใช้ เปดรี้ ลงไปคุมเกมร่วมกับ โกเก้ และ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ส่วนแนวรุกรอชั่งใจเลือกระหว่าง ดานี่ โอลโม่ กับ เฟร์ราน ตอร์เรส ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา แต่ทางฝั่งซ้ายน่าจะให้ ปาโบล ซาราเบีย ลงไปประสานงานกับ อัลบาโร่ โมราต้า พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม   

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : อูไน ซิมอน

แนวรับ : อายเมริก ลาปอร์ก, เปา ตอร์เรส, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ฆอร์ดี้ อัลบา

แดนกลาง : โกเก้, เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเกตส์

แนวรุก : อัลบาโร่ โมราต้า, ปาโบล ซาราเบีย, เฟร์ราน ตอร์เรส

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง สวิตเซอร์แลนด์ VS สเปน

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 22 นัด ปรากฎว่า สเปน พกสถิติข่มแบบมิดด้ามเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 16 เกม  เสมอ 5 เกม และแพ้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งเคยขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 2010 นัดประเดิมสนามรอบแบ่งกลุ่มจากการปราชัยด้วยสกอร์ 0-1 ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 ปรากฎว่า เสมอในบ้านของ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 แม้จะทำผลงานในภาพรวมได้ไม่ดีเลย แต่ สเปน ยังสามารถเอาตัวรอดได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังมีทีมที่ลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย หลังจากที่ได้ เซร์คิโอ บุสเกตส์ หายป่วยจากโควิด-19 กลับมาช่วยยืนคุมแดนกลางอีกครั้ง ส่วนแนวรุกเริ่มผลิตสอร์ได้แบบถล่มทลาย และสถิติเป็นทีมแรกในเกมรอบสุดท้ายของศึกยูโรที่ยิงได้ 5 ประตูถึง 2 เกมติดต่อกัน ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งสร้างเซอร์ไพรส์จากการเขี่ย ฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ตกรอบมาหมาดๆ จึงถือยกให้เป็นหนึ่งในม้ามืดที่มีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ได้เหมือนกัน แม้ตอนนี้จะมีเกมรุกที่สามารถไว้วางใจได้อยู่ แต่นัดนี้จะไม่มี กรานิท ชาก้า มิดฟิลด์กัปตันทีมที่ติดโทษแบน ดังนั้น สเปน น่าจะมีสิทธิ์ผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกจากการเฉือนชนะได้แบบหวุดหวิด     

ผลที่คาด – สวิตเซอร์แลนด์ แพ้ สเปน 1-2 

โปรแกรมบอลยูโร 2020

คอมเมนต์

Leave a Comment

ติดตามอีเมลล์ของเรา Med

กรอกอีเมลล์ และ รายละเอียดของคุณเพื่อติดตามรับข่าวสารจากเรา เพื่อให้คุณไม่พลาด โปรโมชั่นดีดี ไม่ว่าจะเป็น เครดิตฟรี โบนัสเงินฝาก โบนัสเงินคืน จากเว็บโดนๆ มากมาย