วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันพฤหัสที่ 8 ก.ค. 2021

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 คืนวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ค.นี้ เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว ซึ่งจะมีโปรแกรมลงเตะเพียงหนึ่งคู่ อังกฤษ พบกับ เดนมาร์ก ในเวลาตี 2 โดยสามารถติดตามบทวิเคราะห์ฟันธงจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.นี้กันได้เลย 

บอลยูโร 2020 อังกฤษ vs เดนมาร์ก

อังกฤษ VS เดนมาร์ก

สนาม : เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เวลา : 02.00 น.

อังกฤษ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (ยูโร 2020)

เสมอ สกอตแลนด์ 0-0 (ยูโร 2020)

ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 (ยูโร 2020)

ชนะ เยอรมนี 2-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

ชนะ ยูเครน 4-0 (ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพจากเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ไล่ต้อน ยูเครน 4-0 และยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวเลยด้วยซ้ำ จึงพร้อมเดินหน้าล่าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยแรกให้ได้ เพราะเคยทำได้ดีที่สุดเพียงผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศมาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในศึกยูโร 1968 และยูโร 1996 จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยสามารถใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลยด้วย เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด สวมบทเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม แนวรับยังคงใช้ จอห์น สโตนส์ ยืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้บริการของ ลุค ชอว์ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ต่อไป แดนกลางไม่น่าจะให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แม้จะเพิ่งประเดิมยิงประตูแรกในนามทีมชาติได้จากเกมนัดก่อนก็ตาม จึงพร้อมให้ คัลวิน ฟิลลิปส์ ยืนคุมเกมคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ เพราะยังคงเล่นเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างมาก แนวรุกยังต้องรอดูว่าจะมีการเปลี่ยนตัวปีกขวาหรือไม่ เพราะมีตัวเลือกในตำแหน่งนี้ให้ใช้งานได้หลายคนเลย โดยเฉพาะ ฟิล โฟเด้น, จาดอน ซานโซ่ รวมถึง บูกาโย่ ซาก้า แต่น่าจะให้รายแรกกลับมาลงสนามตั้งแต่นาทีแรกอีกครั้ง ส่วน เมสัน เมาท์ น่าจะได้ลงไปสวมบทเป็นจอมทัพตามเดิม ขณะที่ปีกซ้ายยังคงใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เพื่อประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน ยังคงยืนเป็นหัวหอกเหมือนเช่นเคย          

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

แนวรับ : แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์กเกอร์, ลุค ชอว์

แดนกลาง : คัลวิน ฟิลลิปส์, ดีแคลน ไรซ์, เมสัน เมาท์

แนวรุก : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน

เดนมาร์ก

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 (ยูโร 2020)

แพ้ เดนมาร์ก 1-2 (ยูโร 2020)

ชนะ รัสเซีย 4-1 (ยูโร 2020)

ชนะ เวลส์ 4-0 (ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1 (ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย)

คาดว่ากุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ จะปรับทัพจากเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เฉือนชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1 เพื่อลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่เคยสัมผัสมาแล้วหนึ่งครั้งในศึกยูโร 1992 เมื่อ 29 ปีที่แล้ว แม้จะพบกับความพ่ายแพ้จาก 2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม แต่หลังจากนั้นสามารถเร่งฟอร์มจนคว้าชัยได้ถึง 3 เกมติดต่อกัน และมีเกมรุกที่เฉียบคมจากการสอยตาข่ายไปแล้วถึง 11 ประตูเลยทีเดียว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3 แต่จะไม่มี คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งมีปัญหาเรื่องสุขภาพจากอาการวูบหมดสติในนัดประเดิมสนามนั่นเอง โดยผู้รักษาประตูยังคงเป็นหน้าที่ของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล สวมบทเป็นมือหนึ่งต่อไป แนวรับยังคงให้ ซิมง เคียร์ สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมเพื่อยืนคุมแดนหลังร่วมกับ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด และ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น แดนกลางยังคงใช้ โธมัส เดลานีย์ ยืนคุมเกมคู่กับ ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างจะใช้บริการของ โจอาคิม มาห์เล่ กับ ดาเนี่ยล วาสส์ ส่วนแนวรุกยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ ยุสเซฟ โพลเซ่น แต่ไม่น่าจะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง เพราะ 3 ประสานในแดนหน้ากำลังเล่นกันได้แบบลงตัว จึงพร้อมให้ มาร์ติน เบรธเวท กับ มิคเคล ดัมสการ์ด ยืนเล่นเป็นปีกทั้งสองฝั่ง และวาง แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ซึ่งยิงไปแล้ว 3 ประตูยืนเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม      

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

แนวรับ : ซิมง เคียร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, อันเดรียส คริสเตียนเซ่น

แดนกลาง : ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, โธมัส เดลานีย์, โจอาคิม มาห์เล่, ดาเนี่ยล วาสส์

แนวรุก : มาร์ติน เบรธเวท, มิคเคล ดัมสการ์ด, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก 

ผลการพบกัน 5 เกมหลังสุด

เดนมาร์ก ชนะ อังกฤษ 4-1 ในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2005

เดนมาร์ก แพ้ อังกฤษ 1-2 ในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2011

อังกฤษ ชนะ เดนมาร์ก 1-0 ในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2014

เดนมาร์ก เสมอ อังกฤษ 0-0 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2020

อังกฤษ แพ้ เดนมาร์ก 0-1 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง อังกฤษ vs เดนมาร์ก

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 21 นัด ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 12 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ 4 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 ปรากฎว่า อังกฤษ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 0-1 นอกจากนี้ทั้งสองทีมยังเคยเผชิญหน้ากันในรอบสุดท้ายของศึกยูโรมาแล้ว 1 เกมในศึกยูโร 1992 รอบแบ่งกลุ่ม ปรากฎว่าลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 ตอนนี้ อังกฤษ กลายเป็นทีมเต็งแชมป์แบบเต็มตัวไปแล้ว หลังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมแบบต่อเนื่อง และมีแนวรับเหนียวแน่นมากๆ จากการที่ยังไม่โดนเจาะตาข่ายแม้แต่ลูกเดียว แถมยังเริ่มมีแนวรุกที่เข้าฝักจากการยิงประตูในรอบน็อคเอาท์ไปแล้วถึง 6 ประตูเลยด้วย โดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่งที่กลับมาซัดไปแล้วถึง 3 ประตู ส่วน เดนมาร์ก แม้จะทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้แบบทุลักทะเล แต่กลับโชว์ฟอร์มในรอบน็อคเอาท์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนักเตะทุกคนพร้อมร่วมใจกันเล่นเพื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น เพื่อนร่วมทีมที่ชวดลงสนามจากปัญหาเรื่องสุขภาพ  และมีแนวรุกที่ไว้ใจได้จากผลงานของ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ซึ่งยิงในรอบน็อคเอาท์ไปแล้ว 3 เม็ด แต่ดูแล้ว อังกฤษ มีสภาพทีมที่ลงตัวมากกว่า เดนมาร์ก และมีขุมกำลังนักเตะสำรองที่พร้อมลงมาช่วยพลิกเกมหลายคนเลยด้วย ดังนั้น อังกฤษ น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยแล้วผ่านเข้าชิงเป็นครั้งแรกได้เสียที

ผลที่คาด – อังกฤษ ชนะ เดนมาร์ก 2-1

โปรแกรมบอลยูโร 2020

คอมเมนต์

Leave a Comment

ติดตามอีเมลล์ของเรา Med

กรอกอีเมลล์ และ รายละเอียดของคุณเพื่อติดตามรับข่าวสารจากเรา เพื่อให้คุณไม่พลาด โปรโมชั่นดีดี ไม่ว่าจะเป็น เครดิตฟรี โบนัสเงินฝาก โบนัสเงินคืน จากเว็บโดนๆ มากมาย