ศึกฟุต บอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย.นี้ มีโปรแกรมลงสนามทั้งหมด 3 คู่ โดยจะเริ่มต้นด้วยอีกหนึ่งคู่ในกลุ่ม เอ และอีก 2 คู่ในกลุ่ม บี ติดตามบทวิเคราะห์ฟันธงกันได้ทุกวันจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.นี้กันได้เลย

เวลส์ VS สวิตเซอร์แลนด์
สนาม : โอลิมปิก สเตเดี้ยม, กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน
เวลา : 20.00 น.
ถ่ายทอดสด : NBT2HD
เวลส์
คาดว่ากุนซือ โรเบิร์ต เพจ พร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3 เพราะไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ โดยแนวรับจะใช้ โจ โรดอน เป็นแกนหลัก แดนกลางวาง อารอน แรมซีย์ เป็นตัคุมเกม แนวรุกอาจให้ แฮร์รี่ วิลสัน ขยับขึ้นไปยืนกองหน้า เพื่อประสานงานกับ ดาเนี่ยล เจมส์ และ แกเรธ เบล
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : แดนนี่ วอร์ด
แนวรับ : คริส เมแพม, โจ โรดอน, เบ็น เดวิส
แดนกลาง : คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, แอรอน แรมซี่ย์, โจ มอร์เรลล์, รีส นอร์ริงตัน-เดวิส
แนวรุก : แกเร็ธ เบล, แฮร์รี่ วิลสัน, แดเนี่ยล เจมส์
สวิตเซอร์แลนด์
คาดว่ากุนซือ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช จะใช้แผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 และไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยแนวรับจะให้ ฟาเบียน ซาร์ ยืนร่วมกับ มานูเอล อคานยี่ แดนกลางวาง กรานิท ชาก้า คุมเกมคู่กับ เรโม ฟรอยเลอร์ แนวรุกวาง เชอร์ดาน ชากิรี่ เป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังกองหน้า ฮาริส เซเฟโรวิช
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : ยานน์ ซอมเมอร์
แนวรับ : นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อาคานยี่, ฟาเบียน ชาร์
แดนกลาง : เควิน เอ็มบาบู, กรานิต ชาก้า, เรโม่ ฟรอยเลอร์, ริคาร์โด้ โรดริเกซ
แนวรุก : เชอร์ดาน ชากิรี่, มาริโอ กาฟราโนวิช, ฮาริส เซเฟโรวิช
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 7 นัด ปรากฎว่า สวิตเซอร์แลนด์ เหนือกว่า เพราะเป็นฝ่ายชนะ 5 เกม และแพ้ 2 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2011 ปรากฎว่า เวลส์ เปิดบ้านชนะ 2-0 แม้ว่า เวลส์ จะมีเกมรุกที่จัดจ้าน เพราะมีปีกความเร็วสูงทั้งสองฝั่งเลย แต่แนวรับของ สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้อ่อนยุ่ย และมีเกมโต้กลับที่เฉียบขาดด้วย คาดว่าทั้งสองทีมจะเล่นกันแบบเกร็งๆ ในนัดแรก จึงน่าจะลงเอยด้วยผลเสมอแบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม
ผลที่คาด – เวลส์ เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0

เดนมาร์ก VS ฟินแลนด์
สนาม : ปาร์เค่น สเตเดี้ยม, กรุงโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก
เวลา : 23.00 น.
ถ่ายทอดสด : NBT2HD
เดนมาร์ก
คาดว่ากุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ พร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลย โดยแนวรับจะให้ อันเดรียส คริสเตียนเซ่น ยืนคู่กับ ซิมง เคียร์ กัปตันทีม แดนกลางวาง ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก เป็นตัวตัดเกมอยู่ด้านหลังของ คริสเตียน อีริคเซ่น พร้อมสวมบทเป็นจอมทัพ ส่วนกองหน้าอาจให้ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ยืนค้ำเพียงคนเดียว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
แนวรับ : ดาเนี่ยล วาส, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ซิม่อน เคียร์, โยอาคิม เมห์เล่
แดนกลาง : ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, โธมัส เดลานี่ย์ – ยุสซุฟ โพลเซ่น
แนวรุก : คริสเตียน อิริคเซ่น, มาร์ติน เบรธเวท, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก
ฟินแลนด์
คาดว่ากุนซือ มาร์กคู คาเนอร์ว่า เตรียมนำทีมบ้านเกิดลงสนามในรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลรายการใหญ่เป็นครั้งแรก จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2 แม้แนวรุกจะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ ติมู ปุ๊กกี้ กองหน้าตัวเก่ง แต่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก ส่วนแนวรับยังคงมี ยูน่า ตอยวิโอ เป็นแกนหลัก ขณะที่แดนกลางพร้อมวาง ทิม สปาร์ฟ เป็นตัวคุมเกม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : ลูคัส ราเด็คกี้
แนวรับ : เปาลุส อารายูรี่, โยน่า ตอยวิโอ, แดเนี่ยล โอชอห์เนสซี่
แดนกลาง : นิโคไล อัลโฮ, เกล็น กามาร่า, ทิม สปาร์ฟ, โยนี่ เคาโค่, เยเร่ ยูโรเน่น
แนวรุก : ตีมู ปุ๊กกี้, โรบิน ล็อด
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 20 นัด ปรากฎว่า เดนมาร์ก สุดข่มแบบมิดด้าม เพราะเป็นฝ่ายชนะ 12 เกม เสมอ 7 เกม และแพ้เพียงแค่เกมเดียว ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2011 ปรากฎว่า เดนมาร์ก เป็นฝ่ายชนะ 2-1 และเป็นเพราะว่ายังไม่มีประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาก่อนเลย ทำให้ ฟินแลนด์ ดูเป็นรอง เดนมาร์ก ซึ่งมีสภาพทีมที่ลงตัวมากกว่า คาดว่า เดนมาร์ก น่าจะเก็บชัยพร้อมกับประเดิม 3 คะแนนเต็มจากเกมประเดิมสนามได้สำเร็จ
ผลที่คาด – เดนมาร์ก ชนะ ฟินแลนด์ 2-0