บอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2021 มีโปรแกรมลงสนามทั้งหมด 3 คู่
เบลเยี่ยม VS รัสเซีย
สนาม : เครตอฟสกี้ สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
เวลา : 02.00 น.
ถ่ายทอดสด : NBT2HD
เบลเยี่ยม
คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ พร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1 แม้ว่าจะส่อไร้ เควิน เดอ บรอยน์ ยังไม่หายบาดเจ็บ แต่ยังใช้งานพวกแข้งดังรายอื่นๆ ได้เกือบทั้งหมด โดยแนวรับยังคงมี 2 จอมเก๋า แยน แฟร์ทองเก้น กับ โทบี้ อัลเดอร์ไวรัลด์ ร่วมกันยืนคุมเชิง แดนกลางวาง ยูริ ตีเลอมองส์ เป็นตัวคุมเกม ส่วนแนวรุกไม่น่าจะใช้ เอเดน อาซาร์ ฟิตไม่เต็มร้อย จึงน่าจะให้ ดรีส เมอร์เทนส์ ลงไปช่วย โรเมลู ลูกากู ยืนล่าตาข่ายในแดนหน้าไปเลย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์
แนวรับ : โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เจสัน เดนาเยอร์, แยน แฟร์ทองเก้น
แดนกลาง : โธมัส มูนิเยร์, ยูริ ตีเลอมันส์, เลอันเดร์ เดนดองเกอร์, ยานนิค การ์ราสโก้
แนวรุก : ธอร์กาน อาซาร์, ดรีส์ เมอร์เทนส์, โรเมลู ลูกากู
รัสเซีย
คาดว่ากุนซือ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ ไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1 โดยแนวรับยังคงมี อังเดร เซเมนอฟ เป็นแกนหลัก แดนกลางวาง มาโกเม็ด ออซโดเยฟ คุมเกมคู่กับ โรมัน ซอบนิน แนวรุกน่าจะให้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังของ อาร์เต็ม ซูบ้า หัวหอกตัวเป้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : อันตัน ชูนิน
แนวรับ : อังเดรย์ เซเมนอฟ, จอร์จี้ ชิคิย่า, ฟีโอดอร์ คุดเรียชอฟ
แดนกลาง : วียาเชสลาฟ คาราวาเยฟ, โรมัน ซ็อบนิน, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, ดาเลียร์ คูซยาเยฟ
แนวรุก : อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุค, อาร์เต็ม ซูบ้า
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 7 นัด ปรากฎว่า เบลเยี่ยม สุดข่มไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียว เพราะเป็นฝ่ายชนะได้ถึง 5 เกม และลงเอยอีก 2 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2019 ปรากฎว่า เบลเยี่ยม บุกไปถล่ม รัสเซีย 4-1 ด้วยศักยภาพในเรื่องของตัวผู้เล่นที่เหนือกว่าเยอะ แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ 2 แข้งดังในแนวรุก แต่ยังมีพวกตัวหลักให้เลือกใช้งานได้เพียบเลย ซึ่งตรงกันข้ามกับ รัสเซีย ที่พวกผู้เล่นตัวจริงมีฝีเท้าหางจากตัวสำรองอยู่พอสมควร ดังนั้น เบลเยี่ยม น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยได้ตามเป้า
ผลที่คาด – เบลเยี่ยม ชนะ รัสเซีย 2-0
อังกฤษ VS โครเอเชีย
สนาม : เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เวลา : 20.00 น.
อังกฤษ
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ชนะ ซาน มาริโน 5-0 (เหย้า)
ชนะ แอลเบเนีย 2-0 (เยือน)
ชนะ โปแลนด์ 2-1 (เหย้า)
ชนะ ออสเตรีย 1-0 (เหย้า)
ชนะ โรมาเนีย 1-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 และไม่น่าจะใช้งาน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งมีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต จึงน่าจะปรับทัพบางตำแหน่ง โดยเฉพาะแนวรับน่าจะให้ ไทรอน มิงค์ส ยืนคู่กับ จอห์น สโตนส์ แดนกลางวาง คัลวิน ฟิลลิปส์ ยืนคุมเกมคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ ส่วนแนวรุก แจ็ค กรีลิช น่าจะเบียด มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปยืนทางฝั่งขวาคนละด้านกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และให้ แฮร์รี่ เคน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอย่างแน่นอน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด
แนวรับ : คีแรน ทริปเปียร์, จอห์น สโตนส์, ไทรอน มิงส์, ลุค ชอว์
แดนกลาง : คัลวิน ฟิลลิปส์, ดีแคลน ไรซ์
แนวรุก : ราฮีม สเตอร์ลิง, เมสัน เมาท์, แจ็ค กรีลิช แฮร์รี่ เคน
โครเอเชีย
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แพ้ สโลวีเนีย 0-1 (เยือน)
ชนะ ไซปรัส 1-0 (เหย้า)
ชนะ มอลตา 3-0 (เหย้า)
เสมอ อาร์เมเนีย 1-1 (เหย้า)
แพ้ เบลเยี่ยม 0-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 โดยพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งหลัก รวมถึงบรรดาแข้งเก๋าได้ทั้งหมดเลย ไล่ตั้งแต่แนวรับอาจดร็อป เดยัน ลอฟเรน เพื่อให้ ดูเย่ คาเลต้า-คาร์ ลงไปยืนคู่กับ โดมากอย วิด้า แดนกลางวาง มาร์เซโล่ โบรโซวิช คุมเกมคู่กับ มาเตโอ โควาซิช แนวรุกพร้อมจัดเต็มให้ ลูก้า โมดริช ลงไปประสานงานกับ อันเต้ เรบิช และ อีวาน เปริซิช ส่วนกองหน้าตัวเป้าจะใช้ บรูโน่ เพ็ตโควิช
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : โดมินิก ลิวาโควิช
แนวรับ : ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก, โดมากอย วิด้า, ดูเย่ คาเลตา-คาร์, บอร์น่า บาริซิช
แดนกลาง : มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช
แนวรุก : อันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช, บรูโน่ เพตโควิช
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 10 นัด ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่า โดยเป็นฝ่ายชนะ 5 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้ 3 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2018 ปรากฎว่า อังกฤษ เปิดบ้านชนะ 2-1 แม้ว่า โครเอเชีย จะอุดมไปด้วยพวกแข้งเก๋าจากทีมชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 แต่ อังกฤษ มีความสดกว่าเยอะ เพราะเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มที่มีประสบการณ์ในเกมระดับสูงหลายคนเลย ดังนั้น “สิงโตคำราม” น่าจะเบียดคว้าชัยได้แบบหวุดหวิด
ผลที่คาด – อังกฤษ ชนะ โครเอเชีย 2-1
ออสเตรีย Vs มาซิโดเนียเหนือ
สนาม : เนชั่นแนล อารีน่า, กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
เวลา : 23.00 น.
ออสเตรีย
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เสมอ สกอตแลนด์ 2-2 (เยือน)
ชนะ หมู่เกาะแฟโร 3-1 (เหย้า)
แพ้ เดนมาร์ก 0-4 (เหย้า)
แพ้ อังกฤษ 0-1 (เยือน)
เสมอ สโลวะเกีย 0-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ฟรานโก้ โฟด้า จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-4-2 แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ คอนราด ไลเมอร์ กับ ยูเลี่ยน บอมการ์ทลินเกอร์ แต่ยังพร้อมให้พวกแข้งหลักรายอื่นๆ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด แนวรับน่าจะให้ อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช ยืนคู่กับ มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ แดนกลางวาง สเตฟาน อิลซานเกอร์ ยืนคุมเกมคู่กับ ฟลอเรียน กริลลิทช์ แนวรุกจะให้ ดาวิด อลาบา เป็นตัวริมเส้น และใช้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ ซาซ่า คาลอจ์ดซิช
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : ดาเนี่ยล บัคมันน์
แนวรับ : สเตฟาน ไลเนอร์, มาร์ติน ฮินเตอร์เรกเกอร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, อันเดรียส อุลเมอร์
แดนกลาง : คริสตอฟ บอมการ์ทเกอร์, สเตฟาน อิลซานเคอร์, ฟลอเรียน กริลลิตช์, ดาวิด อลาบา
แนวรุก : มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ซาซ่า คาลอจ์ดซิช
มาซิโดเนียเหนือ
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แพ้ โรมาเนีย 2-3 (เยือน)
ชนะ ลิกเท่นสไตน์ 5-0 (เหย้า)
ชนะ เยอรมนี 2-1 (เยือน)
เสมอ สโลวีเนีย 1-1 (เหย้า)
ชนะ คาซัคสถาน 4-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ อีกอร์ อังเกลอฟสกี้ จะใช้แผนการเล่นแบบ 3-5-2 เพื่อลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรก จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามแน่นอน แนวรับจะให้ ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้ ยืนคู่กับ วิซาร์ มุสลิอู แดนกลางวาง เอลยีฟ เอลมาส คุมเกมร่วมกับ เอนิส บาร์ธี แนวรุกหมดสิทธิ์ใช้งาน อิลิย่า เนสโตรอฟสกี้ ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังมี อเล็กซานดาร์ ทราจ์คอฟสกี้ พร้อมยืนเป็นกองหน้าคู่กับ โกรัน ปานเดฟ
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : สโตล ดิมิทริเยฟสกี้
แนวรับ : คีเร่ ริสตอฟสกี้, วิซาร์ มุสลิอู, ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้
แดนกลาง : สเตฟาน ริสตอฟสกี้, เอนิส บาร์ธี, อารียาน อเดมี, เอลยีฟ เอลมาส, เอซยาน อลิออสกี้
แนวรุก : อเล็กซานดาร์ ทราจ์คอฟสกี้, โกรัน ปานเดฟ
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 2 นัด ปรากฎว่า ออสเตรีย มีสถิติเหนือกว่า เพราะคว้าชัยได้ทั้งหมดเลย ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2018 ปรากฎว่า ออสเตรีย เปิดบ้านชนะ 2-0 แม้จะมีความสดใหม่จากการผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในรายการใหญ่เป็นหนแรกเป็นครั้งแรก แต่ ออสเตรีย มีลูกเก๋าที่พร้อมเอาไว้รอรับมืออย่างแน่นอน และมีทีเด็ดในเรื่องของลูกตั้งเตะที่แม่นยำเสียด้วย ดังนั้น ออสเตรีย น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยได้มากกว่า
ผลที่คาด – ออสเตรีย ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-1
