ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ มีโปรแกรมลงสนามทั้งหมด 3 คู่

ฮอลแลนด์ VS ยูเครน
สนาม : โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์
เวลา : 02.00 น.
ฮอลแลนด์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แพ้ ตุรกี 2-4 (เยือน)
ชนะ ลัตเวีย 2-0 (เหย้า)
ชนะ ยิบรอลตาร์ 7-0 (เยือน)
เสมอ สกอตแลนด์ 2-2 (สนามกลาง)
ชนะ จอร์เจีย 3-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ แฟรงค์ เดอ บัวร์ จะใช้แผนการเล่นแบบ 3-5-2 โดยพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด เริ่มจากผู้รักษาประตูน่าจะเลือก มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก เป็นมือหนึ่งเหนือกว่า ทิม ครูล หลังจากที่ เจสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ติดโควิด-19 จึงโดนถอดออกจากทีมในช่วงก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ แนวรับจะให้ ดาลีย์ บลินด์ ยืนร่วมกับ สเตฟาน เดอ ไฟร์จ แดนกลางวาง เฟรงกี้ เดอ ยอง ยืนร่วมกับ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม และ มาร์เท่น เดอ รอน แนวรุกน่าจะให้ วูต เวกฮอร์สท ลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เมมฟิส เดปาย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก
แนวรับ : ยูร์เรีย ทิมเบอร์, สเตฟาน เดอ ไฟร์จ, ดาลีย์ บลินด์
แดนกลาง : เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รอน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เฟรงกี้ เดอ ยอง, โอเว่น ไวจ์นดัล
แนวรุก : วูต เวกฮอร์สท, เมมฟิส เดปาย
ยูเครน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เสมอ ฟินแลนด์ 1-1 (เหย้า)
เสมอ คาซัคสถาน 1-1 (เหย้า)
เสมอ บาห์เรน 1-1 (เหย้า)
ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 (เหย้า)
ชนะ ไซปรัส 4-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ จะใช้แผนการเล่นแบบ 3-4-1-2 โดยพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งได้หมดเลย แนวรับจะให้ วิตาลี่ มีโคเลนโก้ ยืนร่วมกับ มีโคล่า มัตเวียนโก้ แดนกลางวาง เซอร์เก ซีดอร์ชุค คุมเกมคู่กับ ทาราส สเตปาเนนโก้ แนวรุกจะให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นตัวริมเส้น และวาง ราสลาน มาลินอฟสกี้ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ โรมัน ยาเรมชุค
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : จอร์จี้ บูสชาน
แนวรับ : อิลเลีย ซาบาร์นี, มีโคล่า มัตวิเยนโก้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้
แดนกลาง : โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, ทาราส สเตปาเนนโก้, เซอร์เก ไซดอร์ชุค, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
แนวรุก : มีโคล่า ชาปาเรนโก้, โรมัน ยาเรมชุค, รัสลาน มิลานอฟสกี้
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 2 นัด ปรากฎว่า ฮอลแลนด์ ไม่เคยแพ้เลย โดยมีสถิติชนะ 1 เกม และเสมออีก 1 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2010 ปรากฎว่า เสมอกันที่บ้านของ ยูเครน 1-1 นับตั้งแต่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ ก้าวเท้าเข้ามารับงานคุมทัพเมื่อปี 2020 หลังจากนั้น ฮอลแลนด์ ขาดความสม่ำเสมออย่างเห็นได้ชัด ส่วน ยูเครน เป็นทีมที่เล่นเกมสวนทางได้ดีมาก ดังนั้นเกมคู่นี้มีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอได้เหมือนกัน
ผลที่คาด – ฮอลแลนด์ เสมอ ยูเครน 1-1

สกอตแลนด์ VS สาธารณรัฐเช็ก
สนาม : แฮมป์เดน ปาร์ค, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
เวลา : 20.00 น.
สกอตแลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
เสมอ ออสเตรีย 2-2 (เหย้า)
เสมอ อิสราเอล 1-1 (เยือน)
ชนะ หมู่เกาะแฟโร 4-0 (เหย้า)
เสมอ ฮอลแลนด์ 2-2 (สนามกลาง)
ชนะ ลักเซมเบิร์ก 1-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ สตีฟ คลาร์ก จะใช้แผนการเล่นแบบ 3-5-2 โดยรอเช็กสภาพความฟิตของ บิลลี่ กิลมอร์ เพียงคนเดียว แต่เป็นแค่ตัวสำรองอยู่แล้ว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนาม เริ่มจากแนวรับจะให้ คีแรน เทียร์นีย์ ยืนร่วมกับ แกรนท์ ฮันลีย์ แดนกลางวาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คุมเกมร่วมกับ จอห์น แม็คกินน์ และให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมอยู่ทางฝั่งซ้าย ส่วนแนวรุกจะให้ เช อดัมส์ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ ลินดอน ไดค์ส
รายชื่อ 11 นักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : เดวิด มาร์เชลล์
แนวรับ : คีแรน เทียร์นีย์, แกรนท์ ฮันลีย์, แจ็ค เฮนดรี้
แดนกลาง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอห์น แม็คกินน์, คัลลัม แม็คเกรกอร์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, สตีเฟ่น โอ ดอนเนนลล์
แนวรุก : เช อดัมส์, ลินดอน ไดค์ส
สาธารณรัฐเช็ก
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ชนะ เอสโตเนีย 6-2 (เยือน)
เสมอ เบลเยี่ยม 1-1 (เหย้า)
แพ้ เวลส์ 0-1 (เยือน)
แพ้ อิตาลี 0-4 (เยือน)
ชนะ แอลเบเนีย 3-1 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 เพื่อให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย โดยแนวรับจะใช้ โทมัส คาลาส ยืนคู่กับ ออนเดรจ์ เซลุสต์ก้า และให้ วลาดิเมียร์ คูฟาล ยืนเป็นแบ็กขวา แดนกลางวาง โทมัส ซูเซ็ค คุมเกมคู่กับ อเล็กซ์ คราล แนวรุกจะให้ วลาดิเมียร์ ดาริด้า สวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นตัวปั้นเกมอยูด้านหลังของ พาทริก ชิค กองหน้าตัวเป้า
รายชื่อ 11 นักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : โทมัส วาคลิก
แนวรับ : วลาดิเมียร์ คูฟาล, โทมัส คาลาส, อองเดรจ์ เซลุสต์ก้า, แยน โบริล
แดนกลาง : โทมัส ซูเซ็ก, อเล็กซ์ คราล, ลูคัส มาโชปุสต์, ยาคุบ ยันค์โต้
แนวรุก : วลาดิเมียร์ ดาริด้า, พาทริค ชิค
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 9 นัด ปรากฎว่ามีสถิติสูสีกัน โดย สกอตแลนด์ เป็นฝ่ายชนะ 4 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้อีก 4 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 ปรากฎว่า สกอตแลนด์ เปิดบ้านเฉือนชนะ 1-0 แม้จะเป็นทีมที่เล่นแนวรับได้แบบเหนียวแน่นอน แต่ สกอตแลนด์ มีจุดอ่อนในเรื่องเกมรุกที่ยิงประตูได้ไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว ส่วน สาธารณรัฐเช็ก ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้แบบเฉียบขาด จึงมีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอแบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม
ผลที่คาด – สกอตแลนด์ เสมอ สาธารณรัฐเช็ก 1-1

โปแลนด์ VS สโลวะเกีย
สนาม : เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม, เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
เวลา : 23.00 น.
โปแลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
เสมอ ฮังการี 3-3 (เยือน)
ชนะ อันดอร์ร่า 3-0 (เหย้า)
แพ้ อังกฤษ 1-2 (เยือน)
แพ้ ฮอลแลนด์ 1-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ เปาโล ซูซ่า จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-4-2 โดยพร้อมให้พวกแข้งหลักลงเล่เป็นตัวจริงทั้งหมด เริ่มจากแนวรับน่าจะได้ แยน เบนนาเร็ค ฟิตกลับมายืนคู่กับ คามิล กลิค แดนกลางวาง เกรเซกอร์ซ ครีโชเวียค คุมเกมคู่กับ ปิโอเตอร์ ซิลินสกี้ ส่วนแนวรุกยังคงมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้ายืนล่าตาข่ายคู่กับ คามิล ยอซเวียค
รายชื่อ 11 นักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : วอจเชียค เชสนี่
แนวรับ : คามิล เปียตคอฟสกี้, คามิล กลิค, แยน เบดนาเร็ค, บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้
แดนกลาง : เกร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค, มาเตอุสซ์ คลิช, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้, ตีโมเตอุสซ์ ปูชัคซ์
แนวรุก : คามิล ยอซเวียค, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
สโลวะเกีย
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
เสมอ ไซปรัส 0-0 (เยือน)
เสมอ มอลตา 2-2 (เหย้า)
ชนะ รัสเซีย 2-1 (เหย้า)
เสมอ บัลแกเรีย 1-1 (เหย้า)
เสมอ ออสเตรีย 0-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ สเตฟาน ทาร์โควิช จะใช้แผนการเล่นแบบ 4-1-4-1 และไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บเลย จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามแน่นอน โดยแนวรับจะให้ มิลาน สคริเนียร์ ยืนคู่กับ โทมัส ฮูโบชาน แดนกลางวาง ลูคัส ฮาราสลิน คุมเกมคู่กับ ยูราจ์ คุชก้า และวาง มาเร็ค ฮัมซิก เป็นตัวปั้นเกม ส่วนแนวรุกพร้อมส่ง โรเบิร์ต โบเซนิก ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
รายชื่อ 11 นักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : มาร์ติน ดูบราฟก้า
แนวรับ : ปีเตอร์ เปคาริค, ลูโบเมียร์ ซัตก้า, มิลาน สคริเนียร์, โทมัส ฮูโบชาน
แดนกลาง : ยูราจ์ คุชก้า, ยาคุบ ฮโรมาด้า, ลูคัส ฮาราสลิน
แนวรุก : มาเร็ค ฮัมซิค, โรเบิร์ต มัค, โรเบิร์ต โบเซนิก
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 5 นัด ปรากฎว่า โปแลนด์ มีสถิติเป็นรอง เพราะชนะได้เพียง 1 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ถึง 3 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมอุ่นแข้ง เมื่อปี 2013 ปรากฎว่า โปแลนด์ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 0-2 แน่นอนว่า สโลวะเกีย มีจุดเด่นอยู่ทีมเวิร์ก แต่ โปแลนด์ มีจุดแข็งอยู่ที่แนวรุก โดยเฉพาะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่ง ดังนั้น โปแลนด์ น่าจะมีโอกาสคว้าชัยได้มากกว่า
ผลที่คาด – โปแลนด์ ชนะ สโลวะเกีย 2-1