วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. 2021

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 ประจำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย.นี้ มีโปรแกรมลงสนามทั้งหมด 3 คู่ โดยเป็นคิวของ 2 เกมในกลุ่ม เอฟ และมีคู่บิ๊กแมทช์เป็นการพบกันระหว่าง เยอรมนี กับ โปรตุเกส แชมป์เก่าจากครั้งก่อน ส่วนอีกหนึ่งคู่เป็นเกมในกลุ่ม อี ซึ่งมีทีมใหญ่อย่าง สเปน พร้อมลงสนามด้วย และสามารถติดตามบทวิเคราะห์ฟันธงกันได้ทุกวันจนถึงรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.นี้กันได้เลย

บอลยูโร 2020 อังกฤษ vs สกอตแลนด์

อังกฤษ VS สกอตแลนด์

สนาม : เวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เวลา : 02.00 น.

อังกฤษ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ แอลเบเนีย 2-0 (เยือน)

ชนะ โปแลนด์ 2-1 (เหย้า)

ชนะ ออสเตรีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ โรมาเนีย 1-0 (เหย้า)

ชนะ โครเอเชีย 1-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมประเดิมที่เฉือนชนะ โครเอเชีย 1-0 เพื่อลุ้นเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน และจะได้ขึ้นแท่นรอผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยพวกแข้งดังยังคงพร้อมลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยังคงให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง แนวรับยังคงใช้ ไทรอน มิงค์ส กับ จอห์น สโตนส์ แม้ว่า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จะหายเจ็บกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว แต่สภาพร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ ลุค ชอว์ ลงไปยืนคนละฝั่งกับ คีแรน ทริปเปียร์ แดนกลางน่าจะให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะตอนนี้ต้องให้ คัลวิน ฟิลลิปส์ คุมเกมคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งกำลังเล่นได้แบบเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างมาก แนวรุกพร้อมจัดเต็มให้ เมสัน เมาท์ เป็นตัวเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ และให้ ฟิล โฟเด้น กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นปีกริมเส้นทั้งสองข้าง ส่วน แฮร์รี่ เคน พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

แนวรับ : ไทรอน มิงค์ส, จอห์น สโตนส์, ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์

แดนกลาง : คัลวิน ฟิลลิปส์, ดีแคลน ไรซ์, เมสัน เมาท์

แนวรุก : ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี่ เคน

สกอตแลนด์

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ ออสเตรีย 2-2 (เหย้า)

เสมอ อิสราเอล 1-1 (เยือน)

ชนะ หมู่เกาะแฟโร 4-0 (เหย้า)

เสมอ ฮอลแลนด์ 2-2 (สนามเป็นกลาง)

แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-2 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ สตีฟ คลาร์ก จะปรับทัพจากเกมประเดิมสนามที่แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 0-2 เพื่อกลับมาคว้าชัยต่อชะตาลุ้นผ่านเข้ารอบในนัดสุดท้าย โดยพวกแข้งหลักยังพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2 เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ เดวิด มาร์เชลล์ ยืนเฝ้าเสาต่อไป แม้จะพลาดโดนยิงครึ่งสนามจากเกมนัดแรกก็ตาม แนวรับน่าจะได้ คีแรน เทียร์นีย์ ฟิตกลับมายืนร่วมกับ แกรนท์ ฮันลีย์ และ แจ็ค เฮนดรี้ แดนกลางวาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คุมเกมร่วมกับ จอห์น แม็คกินน์ และ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ เจมส์ ฟอร์เรสต์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แนวรุกวาง เช อดัมส์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ ลินดอน ไดค์ส  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : เดวิด มาร์เชลล์

แนวรับ : คีแรน เทียร์นีย์, แกรนท์ ฮันลีย์, แจ็ค เฮนดรี้

แดนกลาง : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, จอห์น แม็คกินน์, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ ฟอร์เรสต์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

แนวรุก : เช อดัมส์, ลินดอน ไดค์ส  

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง อังกฤษ vs สกอตแลนด์

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 114 นัด ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าไม่มากนัก โดยเป็นฝ่ายชนะ 48 เกม เสมอ 25 เกม และแพ้ 41 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2017 ปรากฎว่า ลงเอยด้วยผลเสมอในบ้านของ สกอตแลนด์ 2-2 นอกจากนี้ยังเคยเจอกันในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโรครั้งล่าสุดเมื่อตอนที่แข่งยูโร 1996 ปรากฎว่า อังกฤษ เป็นฝ่ายชนะ 2-0 สำหรับเกมนี้ถือว่าเป็นศึกสายเลือดของ 2 ทีมลูกหนังร่วมธงสหราชอาณาจักร จึงพร้อมลุยกันแบบเต็มที่อย่างแน่นอน เพราะมีเรื่องของศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ด้วยนั่นเอง แต่ดูแล้ว อังกฤษ มีศักยภาพที่เหนือกว่า โดยเฉพาะเรื่องตัวผู้เล่นที่มีพวกฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้เต็มไปหมดเลย ส่วน สกอตแลนด์ มีจุดแข็งในเรื่องของทีมสปิริตที่พร้อมงัดออกมาใช้ได้ทุกเมื่อ แต่ด้วยทรัพยากรนักเตะที่มีให้เลือกใช้งานแบบจำกัด ดังนั้น อังกฤษ จึงน่าจะอาศัยความได้เปรียบเรื่องของการลงเล่นในถิ่นตัวเองเพื่อเก็บชัยชนะได้ตามคาด 

ผลที่คาด – อังกฤษ ชนะ สกอตแลนด์ 2-0

ฮังการี VS ฝรั่งเศส

บอลยูโร 2020 ฮังการี vs ฝรั่งเศส

สนาม : ปุสกัส อารีน่า, กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เวลา : 20.00 น.

ฮังการี

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ ซาน มาริโน 3-0 (เยือน)

ชนะ อันดอร์ร่า 4-1 (เยือน)

ชนะ ไซปรัส 1-0 (เหย้า)

เสมอ ไอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า)

แพ้ โปรตุเกส (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ มาร์โก รอสซี่ จะปรับทัพจากนัดแรกที่แพ้ โปรตุเกส ในช่วงท้ายเกม 0-3 ทั้งๆ ที่ยันเสมอมาได้ถึง 85 นาทีเลยทีเดียว เพื่อลุ้นคว้าชัยรักษาโอกาสผ่านเข้ารอบไปจนถึงนัดสุดท้าย โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 3-5-2 เหมือนเดิม และพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เพราะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงให้ ปีเตอร์ กาลุคชี่ ยืนเฝ้าเสา แนวรับใช้ 3 ประสาน อัตติล่า ซาไล ยืนร่วมกับ วิลลี่ ออร์บาน และ เอ็นเดร บ็อตก้า เหมือนเช่นเคย แดนกลางวาง ลาซโล ไคน์ไฮสเลอร์ คุมเกมร่วมกับ โลอิค เนโก้ และ อดัม นากี้ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะเปลี่ยนมาใช้ อัตติล่า ฟิโอล่า กับ เกอร์โก้ ลอฟเรนซ์ซิชส์ แนวรุกยังเช็กสภาพความฟิตของ โรแลนด์ ซัลไล แต่น่าจะพร้อมลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ อดัม ซาไล  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ กาลุคชี่

แนวรับ : อัตติล่า ซาไล, วิลลี่ ออร์บาน, เอ็นเดร บ็อตก้า

แดนกลาง : ลาซโล ไคน์ไฮสเลอร์, โลอิค เนโก้, อดัม นากี้, อัตติล่า ฟิโอล่า, เกอร์โก้ ลอฟเรนซ์ซิชส์

แนวรุก : โรแลนด์ ซัลไล, อดัม ซาไล

ฝรั่งเศส

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

เสมอ ยูเครน 1-1 (เหย้า)

ชนะ คาซัคสถาน 2-0 (เยือน)

ชนะ บอสเนีย 1-0 (เยือน)

ชนะ เวลส์ 3-0 (เหย้า)

ชนะ เยอรมนี 1-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากนัดแรกที่เฉือนชนะ เยอรมนี 1-0 เพื่อลุ้นเก็บชัยรอผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปเลย โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 4-3-1-2 ต่อไป และพวกแข้งหลักน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เพราะไม่มีใครเจอโรคเดี้ยงเล่นงานเลย เริ่มจากผู้รักษาประตูจะให้ อูโก้ ยอริส ยืนเฝ้าเสาเป็นกัปตันทีมตามเดิม แนวรับยังคงใช้ 4 ตัวหลัก ราฟาเอล วาราน ยืนเป็นกองหลังคู่กับ เพรสเนล คิมเพมเบ้ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งยังคงใช้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ กับ ลูกาส์ เอร์นันเดซ แดนกลางยังคงจัดเต็มใช้ 3 ประสาน อาเดรียง ราบิโอต์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ป็อกบา ส่วนแนวรุกยังคงวาง อองตวน กรีซมันน์ ยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำ ขณะที่ คาริม เบนเซม่า น่าจะได้สวมบทเป็นหัวหอกเพื่อยืนล่าตาข่ายคู่กับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้  

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู :  อูโก้ ยอริส

แนวรับ : ราฟาเอล วาราน, เพรสเนล คิมเพมเบ้, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, ลูกาส์ เอร์นันเดส

แดนกลาง : อาเดรียง ราบิโอต์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา

แนวรุก : อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คีลิยัน เอ็มบัปเป้

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง ฮังการี vs ฝรั่งเศส

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 23 นัด ปรากฎว่า ฝรั่งเศส มีสถิติเป็นรองแบบเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นเพราะว่าทั้งสองทีมเคยเจอกันในอดีตอยู่บ่อยๆ เมื่อตอนสมัยที่ ฮังการี เคยเป็นทีมลูกหนังเบอร์ต้นๆ ของโลกนั่นเอง โดย ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายชนะ 8 เกม เสมอ 3 เกม และแพ้ 12 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตร เมื่อปี 2005 ปรากฎว่า ฝรั่งเศส เปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 และถ้าดูจากยุคปัจจุบันจะพบว่า ฝรั่งเศส มีศักยภาพที่เหนือกว่าเยอะเลย และมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ทีมล่าสุดอีกด้วย ส่วน ฮังการี โชว์ฟอร์มในเกมประเดิมสนามในศึกยูโร 2020 ได้แบบน่าประทับใจ โดยเฉพาะเรื่องแนวรับที่เล่นได้แบบรัดกุมมากๆ แต่กลับดีแตกในช่วงท้ายเกมจนพลาดท่าแพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยไปเลย คาดว่า ฝรั่งเศส พร้อมอาศัยเรื่องฝีเท้าของตัวผู้เล่นที่เหนือกว่าคอยไล่บดขยี้ตลอดทั้งเกม และน่าจะเก็บชัยเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันได้แบบไม่ยากเย็นนัก 

ผลที่คาด – ฮังการี แพ้ ฝรั่งเศส 0-2

โปรตุเกส VS เยอรมนี

บอลยูโร 2020 โปรตุเกส vs เยอรมนี

สนาม : ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค, เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

เวลา : 23.00 น.

โปรตุเกส

ชนะ อาเซอร์ไบจาน 1-0 (เหย้า)

เสมอ เซอร์เบีย 2-2 (เยือน)

ชนะ ลักเซมเบิร์ก 3-1 (เยือน)

เสมอ สเปน 0-0 (เยือน)

ชนะ ฮังการี 3-0 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ แฟร์นันโด้ ซานโต๊ส จะปรับทัพบางตำแหน่งจากนัดแรกที่เร่งเครื่องท้ายเกมไล่ต้อน ฮังการี 3-0 เพื่อลุ้นเก็บชัยไปขึ้นแท่นรอเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะให้ รุย ปาทริซิโอ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตามปกติ แนวรับยังคงให้ รูเบน ดิอาส ยืนคู่กับ เปเป้ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างยังคงเป็นหน้าที่ของ ราฟาเอล เกร์เรโร่ กับ เนลสัน เซเมโด้ แดนกลางอาจดร็อป วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ เพื่อให้ เรนาโต้ ซานเชส ลงไปคุมเกมคู่กับ ดานิโล เปไรร่า แนวรุกน่าจะขยับ บรูโน่ แฟร์นันเดส ให้มายืนเป็นตัวเชื่อมเกมระหว่างแผงมิดฟิลด์ในตำแหน่งจอมทัพ และน่าจะพัก เจา เฟลิกซ์ เพื่อให้ อังเดร ซิลวา ยืนเป็นปีกขวาคนละฝั่งกับ ดิโอโก้ โจต้า ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมยังคงพร้อมสวมบทเป็นกองหน้าเหมือนเดิม หลังจากที่เพิ่งสร้างสถิติเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในรอบสุดท้ายของศึกยูโรด้วยจำนวน 11 ประตู

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : รุย ปาทริซิโอ

แนวรับ : รูเบน ดิอาส, เปเป้, ราฟาเอล เกร์เรโร่, เนลสัน เซเมโด้

แดนกลาง : เรนาโต้ ซานเชส, ดานิโล เปไรร่า, บรูโน่ แฟร์นันเดส

แนวรุก : อังเดร ซิลวา, ดิโอโก้ โจต้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

เยอรมนี

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ชนะ โรมาเนีย 1-0 (เยือน)

แพ้ มาซิโดเนียเหนือ 1-2 (เหย้า)

เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (สนามเป็นกลาง)

ชนะ ลัตเวีย 7-1 (เหย้า)

แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 (ยูโร 2020)

คาดว่ากุนซือ โจอาคิม เลิฟ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากนัดแรกที่แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 เพื่อลุ้นคว้าชัยรักษาโอกาสผ่านเข้ารอบในนัดสุดท้าย โดยจะใช้แผนการเล่นแบบ 3-4-3 และน่าจะให้แข้งดังบางรายได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วย เริ่มจากผู้รักษาประตูยังคงใช้งานมือหนึ่งคนเดิม นั่นก็คือ มานูเอล นอยเออร์ แนวรับต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ มัทธีอัส กินเทอร์ หากลงเล่นไม่ได้จะให้ เอมเร่ ชาน ลงไปยืนร่วมกับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ มัตส์ ฮุมเมลส์ แดนกลางยังคงใช้ อิลคาย กุนโดกาน คุมเกมคู่กับ โทนี่ โครส เช่นเดียวกับฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งยังคงเป็นหน้าที่ของ โรบิน โกเซ่นส์ กับ โจชัว คิมมิช ส่วนแนวรุกอาจจะดร็อป แซร์จ กนาบรี้ รวมถึง ไค ฮาเวิร์ตซ นั่งเป็นตัวสำรอง เพราะโชว์ฟอร์มในเกมประเดิมสนามไม่ออกเลย เพื่อให้ ติโม แวร์เนอร์ รวมถึง เลรอย ซาเน่ ลงไปยืนเป็นตัวริมเส้นคอยประสานงานกับ โธมัส มุลเลอร์         

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์

แนวรับ : มัตส์ ฮุมเมลส์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เอมเร่ ชาน

แดนกลาง : อิลคาย กุนโดกาน, โทนี่ โครส, โรบิน โกเซ่นส์, โจชัว คิมมิช

แนวรุก : ติโม แวร์เนอร์, เลรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์

วิเคราะห์ฟันธง

วิเคราะห์ฟันธง โปรตุเกส vs เยอรมนี

คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 18 นัด ปรากฎว่า เยอรมนี มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 10 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ 3 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อ 7 ปีก่อน ปรากฎว่า เยอรมนี เป็นฝ่ายชนะ 4-0 หากวัดจากสภาพทีมในตอนนี้ต้องบอกว่า โปรตุเกส มีความลงตัวมากกว่า และมีศักดิ์ศรีเป็นถึงแชมป์ยูโร 2016 จากเมื่อ 5 ปีที่แล้วอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเกมรุกที่วูบวามอีกด้วย แต่จะมองข้ามชื่อชั้นของ เยอรมนี ซึ่งดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์รายการนี้ถึง 3 สมัยไม่ได้เลย เพราะมักจะมีลูกฮึดในยามที่ทีมตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝาได้ตลอด โดยเกมนี้ห้ามแพ้เด็ดขาด ถ้าไม่อยากเสี่ยงต่อการตกรอบแรกก่อนเวลาอันควร ดังนั้นเกมคู่นี้โอกาสลงเอยด้วยผลเสมอได้เหมือนกัน

ผลที่คาด – โปรตุเกส เสมอ เยอรมนี 1-1

ดูตารางบอลยูโร 2020 พร้อมติดตามผล คลิกเลย

คอมเมนต์

Leave a Comment

ติดตามอีเมลล์ของเรา Med

กรอกอีเมลล์ และ รายละเอียดของคุณเพื่อติดตามรับข่าวสารจากเรา เพื่อให้คุณไม่พลาด โปรโมชั่นดีดี ไม่ว่าจะเป็น เครดิตฟรี โบนัสเงินฝาก โบนัสเงินคืน จากเว็บโดนๆ มากมาย