โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส
สนาม : ปุสกัส อารีน่า, กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
เวลา : 02.00 น.
โปรตุเกส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
เสมอ เซอร์เบีย 2-2 (เยือน)
ชนะ ลักเซมเบิร์ก 3-1 (เยือน)
เสมอ สเปน 0-0 (เยือน)
ชนะ ฮังการี 3-0 (ยูโร 2020)
แพ้ เยอรมนี 2-4 (ยูโร 2020)
คาดว่ากุนซือ แฟร์นันโด้ ซานโต๊ส จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่แพ้ เยอรมนี 2-4 เพื่อลุ้นคว้าชัยผ่านเข้ารอบไปเลย แต่ถ้าเสมอหรือแพ้จะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะทีมแชมป์, รองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง เยอรมนี กับ ฮังการี กันเสียก่อน เพราะตอนนี้อยู่อันดับ 3 แข่ง 2 นัด มี 3 คะแนน เท่ากับ เยอรมนี แต่เป็นรองเรื่องสถิติการพบกันเอง จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 โดยผู้รักษาประตูยังคงเป็นหน้าที่ของ รุย ปาทริซิโอ ยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรก แนวรับน่าจะให้ เปเป้ ยืนคู่กับ รูเบน ดิอาส เหมือนเดิม ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองข้างจะใช้ เนลสัน เซเมโด้ กับ ราฟาเอล เกร์เรโร่ แดนกลางอาจให้ เรนาโต้ ซานเชส ลงไปเล่นแทน ดานิโล่ เปไรร่า เพื่อยืนคุมเกมคู่กับ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ และวาง บรูโน่ แฟร์นันเดส สวมบทเป็นตัวปั้นเกม แนวรุกน่าจะดร็อป แบร์นาร์โด้ ซิลวา เพื่อให้ เจา เฟลิกซ์ กลับมาประสานงานกับ ดิโอโก้ โจต้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งยิงไปแล้ว 3 ประตู
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : รุย ปาทริซิโอ
แนวรับ : เปเป้, รูเบน ดิอาส, เนลสัน เซเมโด้, ราฟาเอล เกร์เรโร่
แดนกลาง : บรูโน่ แฟร์นันเดส, เรนาโต้ ซานเชส, ดานิโล่ เปไรร่า
แนวรุก : เจา เฟลิกซ์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดิโอโก้ โจต้า
ฝรั่งเศส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ชนะ คาซัคสถาน 2-0 (เยือน)
ชนะ บอสเนีย 1-0 (เยือน)
ชนะ เวลส์ 3-0 (เหย้า)
ชนะ เยอรมนี 1-0 (ยูโร 2020)
เสมอ ฮังการี 1-1 (ยูโร 2020)
คาดว่ากุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากนัดแรกที่เสมอ ฮังการี 1-1 เพื่อลุ้นเก็บชัยเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าเสมอหรือแพ้จะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง เยอรมนี กับ ฮังการี กันเสียก่อน เพราะตอนนี้รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม แข่ง 2 นัด มี 4 คะแนน จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 4-3-1-2 เพราะไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ โดยผู้รักษาประตูจะให้ อูโก้ ยอริส ยืนเฝ้าเสาเป็นกัปตันทีมเหมือนเช่นเคย แนวรับยังคงให้ เพรสเนล คิมเพมเบ้ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ ราฟาเอล วาราน ส่วนแบ็กซ้ายอาจให้ ลูกาส์ เอร์นันเดซ กลับมายืนคนละฝั่งกับ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ แดนกลางไม่น่าเปลี่ยนแปลงพร้อมให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงไปคุมเกมร่วมกับ ปอล ป็อกบา และ อาเดรียง ราบิโอต์ ส่วนแนวรุกอาจดร็อป คาริม เบนเซม่า เพื่อให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ อองตวน กรีซมันน์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : อูโก้ ยอริส
แนวรับ : เพรสเนล คิมเพมเบ้, ราฟาเอล วาราน, ลูกาส์ เอร์นันเดซ, แบงฌาแม็ง ปาวาร์
แดนกลาง : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา, อาเดรียง ราบิโอต์
แนวรุก : โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 27 นัด ปรากฎว่า ฝรั่งเศส พกสถิติข่มอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 19 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้ 6 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2020 ปรากฎว่า ฝรั่งเศส บุกไปชนะ โปรตุเกส 1-0
ผลที่คาด – ฝรั่งเศส เสมอ โปรตุเกส 1-1
เยอรมนี VS ฮังการี
สนาม : ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค, เมืองมิวนิค ประเททศเยอรมนี
เวลา : 02.00 น.
เยอรมนี
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
แพ้ มาซิโดเนียเหนือ 1-2 (เหย้า)
เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (สนามเป็นกลาง)
ชนะ ลัตเวีย 7-1 (เหย้า)
แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 (ยูโร 2020)
ชนะ โปรตุเกส 4-2 (ยูโร 2020)
คาดว่ากุนซือ โยอาคิม เลิฟ จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่ชนะ โปรตุเกส 4-2 เพื่อลุ้นเก็บชัยเข้ารอบไปเลย แต่ถ้าเสมอหรือแพ้จะต้องดูผลของอีกคู่หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย ส่วนจะเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์ หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง โปรตุเกส กับ ฝรั่งเศส กันเสียก่อน เพราะตอนนี้รั้งอันดับ 2 แข่ง 2 นัด มี 3 คะแนน เท่ากับ โปรตุเกส แต่มีสถิติการพบกันเองที่เหนือกว่า โดยพร้อมให้พวกดาวดังออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3 ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยังคงให้ มานูเอล นอยเออร์ สวมบทเป็นมือหนึ่ง แนวรับพร้อมใช้ 3 ประสาน มัตส์ ฮุมเมลส์, มัตธีอัส กินเทอร์ และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แดนกลางวาง โทนี่ โครส คุมเกมคู่กับ อิลคาย กุนโดกาน และให้ โรบิน กูเซ่นส์ ยืนเป็นฟูลแบ็กฝั่งซ้ายคนละด้านกับ โจชัว คิมมิช ส่วนแนวรุกมีโอกาสที่ 2 ตัวสำรองอย่าง ติโม แวร์เนอร์ กับ เลรอย ซาเน่ จะสอดแทรกลงไปเล่นเป็นตัวจริงได้เหมือนกัน แต่น่าจะใช้ โธมัส มุลเลอร์, ไค ฮาเวิร์ตซ และ แซร์จ กนาบรี้ ต่อไปเหมือนเดิมมากกว่า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์
แนวรับ : มัตส์ ฮุมเมลส์, มัตธีอัส กินเทอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์
แดนกลาง : โทนี่ โครส, อิลคาย กุนโดกาน, โรบิน กูเซ่นส์, โจชัว คิมมิช
แนวรุก : โธมัส มุลเลอร์, ไค ฮาเวิร์ตซ, แซร์จ กนาบรี้
ฮังการี
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ชนะ อันดอร์ร่า 4-1 (เยือน)
ชนะ ไซปรัส 1-0 (เหย้า)
เสมอ ไอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า)
แพ้ โปรตุเกส 0-3 (ยูโร 2020)
เสมอ ฝรั่งเศส 1-1 (ยูโร 2020)
คาดว่ากุนซือ มาร์โก รอสซี่ จะปรับทัพจากเกมนัดก่อนที่เสมอ ฝรั่งเศส 1-1 และจะต้องคว้าชัยให้ได้เท่านั้น เพื่อลุ้นตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แม้จะหมดสิทธิ์เป็นแชมป์กลุ่มได้แล้ว แต่ยังมีโอกาสเข้ารอบในฐานะรองแชมป์ หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ซึ่งยังต้องรอดูผลคู่ระหว่าง โปรตุเกส กับ ฝรั่งเศส กันเสียก่อน โดยตอนนี้อยู่อันดับ 4 แข่ง 2 นัด มีแต้มเดียว หากลงเอยด้วยผลเสมอหรือแพ้จะตกรอบในฐานะทีมบ๊วยของกลุ่มทันที จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2 เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็นหน้าที่ของ ปีเตอร์ กาลุคชี่ ยืนเฝ้าเสาในฐานะกัปตันทีม แนวรับจะให้ เอ็นเดร บ็อตก้า ยืนร่วมกับ วิลลี่ ออร์บาน และ อัตติล่า ซาไล แดนกลางวาง อันดราส เชเฟอร์ ยืนคุมเกมร่วมกับ อดัม นากี้ และ ลาซโล ไคน์ไฮสเลอร์ ส่วนฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งจะใช้ อัตติล่า ฟิโอล่า กับ โลอิค เนโก้ แนวรุกยังคงให้ โรแลนด์ ซัลไล ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ อดัม ซาไล เหมือนเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ กาลุคชี่
แนวรับ : เอ็นเดร บ็อตก้า, วิลลี่ ออร์บาน, อัตติล่า ซาไล
แดนกลาง : อันดราส เชเฟอร์, อดัม นากี้, ลาซโล ไคน์ไฮสเลอร์, อัตติล่า ฟิโอล่า, โลอิค เนโก้
แนวรุก : โรแลนด์ ซัลไล, อดัม ซาไล
วิเคราะห์ฟันธง
คู่นี้เคยพบกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 33 นัด ปรากฎว่า เยอรมนี มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 13 เกม เสมอ 10 เกม และแพ้ 10 เกม ส่วนนัดล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตร เมื่อปี 2016 ปรากฎว่า เยอรมนี เปิดบ้านชนะ 2-0
ผลที่คาด – เยอรมนี ชนะ ฮังการี 2-0
